ล่องแพชมพลับพลึงธาร หนึ่งเดียวในโลก

เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ออมกับพี่ๆ ได้มีโอกาสไปกุ๊กๆกู๋ กันที่ อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ค่ะ ไปเที่ยวชม พลับพลึงธาร ออมคิดว่าหลายๆคนคงจะไม่รู้จักแล้วก็คงจะงงนะคะ ว่า พลับพลึงธาร คืออะไร ดอกพลับพลึงธาร เป็นพืชไม้น้ำหายาก มีดอกสีขาวบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ เค้ายังกล่าวว่ายังเป็น “ราชินีแห่งสายน้ำคลองนาคา” ซึ่งดอกพลับพลึงธาร มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Crinum thaianum ทั้งยังมีการระบุว่า พบพืชชนิดนี้ในโลกเฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น เป็นพืชไม้น้ำที่หายาก อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ พบในพื้นที่รอยต่อระหว่างจ.ระนอง และพังงาเท่านั้น แต่ปัจจุบันจากการที่พื้นที่ถูกทำลายและสภาพป่าเปลี่ยนไปทำให้ดอกพลับพลึงธารลดน้อยลง แต่ยังคงพบที่คลองนาคาเพียงแห่งเดียวที่ยังหนาแน่นและคงสภาพธรรมชาติเดิมไว้ได้ ซึ่งพลับพลึงธารยังเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าในเขตคลองนาคาอีกด้วย เนื่องจากเป็นพืชที่ขึ้นได้เฉพาะน้ำที่ใสสะอาดมากเท่านั้น จะมีเฉพาะในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. ของทุกปี ที่คลองนาคา จ.ระนอง

ปัจจุบันชมรมมีแพไม้ไผ่ไว้บริการนักท่องเที่ยว 10 ลำ และแพยางอีก 6 ลำ พร้อมเสื้อชูชีพ นั่งได้ลำละ 5-7 คน โดยคิดค่าบริการเป็นรายหัว หัวละ 380 บาท ถ้ามีอาหารเที่ยงหัวละ 450 บาท ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง รวมระยะทาง 6 ก.ม. สำหรับการเดินทางไปยังจุดเริ่มต้น ของการล่องแพ จากตัวเมืองระนองใช้เส้นทางถ.เพชรเกษมไปทางอ.กะเปอร์-อ.สุขสำราญ ระยะทาง 70 ก.ม. เมื่อถึงสะพานข้ามคลองนาคา ติดกับอบต.นาคา ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 5 กิโลเมตร เป็นต้นน้ำคลองนาคาชาวบ้านเรียกว่า ฝายท่า หากเดินทางมาจาก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ก็ใช้เส้นทางถ.เพชรเกษม-ไปทางระนองระยะทาง 90 ก.ม. สอบถามชมรมเพลินไพรศรีนาคา โทร.08-6120-9700, ชมรมป่าสร้างฝันจ.ระนอง โทร.08-6740-4533 และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา 0-7782-8174

ระหว่างทางน้องๆที่พายแพยางก็จะชี้ให้เราชมธรรมชาติ ที่ยังสมบูรณ์อยู่มาก ที่สำคัญ ออมได้เห็นและลงไปเก็บผักกรูดมาทำยำผักกรูดที่บ้านพี่ซาเราห์ รสชาติ…อร่อยเหอะเจงๆ

น่าเสียดายนะคะ ที่น้ำมันน้อยไปหน่อย(ค่าแพยาง คนละ 380 บาท แพงๆมากๆๆๆๆๆๆในความรู้สึกออม) เลยดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ที่นี่เค้าถือว่า ล่องแพชมพลับพลึงธาร เป็น หนึ่งเดียวในโลกเลยนะคะ หากเพื่อนๆคนไหนมีเวลาว่างลองไปเที่ยวดูซิคะให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ตามนโยบายไทยเที่ยวไทยค่ะ